ความเชื่อแบบผิดๆ ที่คนเรามักจะคิดกันไปเอง

เคยสงสัยไหมว่าบางสิ่งบางอย่างที่พูดกันหรือสอนกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนั้น เมื่อฟังแล้วมันรู้สึกแปลกๆ และไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้ ซึ่งในสมัยก่อนนั้นการขวนขวายหาความจริงนั้นอาจจะทำได้ค่อนข้างยาก แต่เมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไปความเชื่อแบบผิดๆ ก็เริ่มที่จะถูกค้นพบคำตอบที่แท้จริงไปตามเทคโนโลยีในปัจจุบันแล้ว ซึ่งความเชื่ออะไรบ้างเราลองมาดูกัน

ความเชื่อที่ว่าหากจะอุ้มกระต่ายนั้น ต้องอุ้มด้วยการจับที่หูเท่านั้น ซึ่งเป็นความเชื่อสำหรับผู้ที่ชอบสัตว์เลี้ยงสี่ขาสไตล์คิกขุอย่างเจ้ากระต่ายน้อยนั่นเองว่า การที่จะอุ้มเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดนั้น จะต้องเป็นการอุ้มโดยจับหูของเจ้ากระต่ายขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งหารู้ไหมว่าการทำเช่นนั้นเป็นการทำร้ายสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคุณโดยตรง เพราะเนื่องจากหูของกระต่ายนั้นเป็นส่วนที่มีเส้นประสาทมากที่สุด ซึ่งหากจะอุ้มนั้น ก็แค่อุ้มง่ายๆ ด้วยการประคองอุ้มขึ้นมาเหมือนสัตว์อื่นๆ อย่างสุนัขหรือแมวนั้นเอง

ความเชื่อที่ว่าการว่ายน้ำกลับเข้าชายฝั่งเพื่อหนีทะเลดูด ซึ่งเป็นความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ในความเป็นจริงแล้วหากต้องเจอกับสถานการณ์คับขันซึ่งหาทางออกไม่เจอนั้น หลายคนมักจะคิดว่าหากรีบว่ายน้ำกลับชายฝั่งให้เร็วที่สุดจะทำให้รอดจากทะเลดูดได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น วิธีนี้จะใช้ได้ผลเมื่อทะเลดูเกิดขึ้นในระนาบที่ตั้งฉากกับชายฝั่งเท่านั้น แต่ความจริงแล้วด้วยความที่คลื่นทะเลเหล่านั้นจะสามารถเกิดขึ้นกับในแนวเฉียงได้เช่นกัน ดังนั้นการที่จะเอาชีวิตรอดจากคลื่นดูดนั้นคือ ต้องหาแนวดูดให้เจ แล้วว่ายกลับสู่ทิศทางตรงกันข้ามนั้นจึงเป็นวิธีที่ถูกต้อง

ความเชื่อที่ว่า ครีมนวดและแชมพูนั้นจะช่วยสามารถรักษาผมแตกปลายได้ อย่างว่านะคนเรามักจะเชื่อโฆษณาว่า หากใช้แชมพูหรือครีมนวดยี่ห้อนี้แล้วนั้น จะช่วยรักษาผมแตกปลายของคุณที่แตกปลายไปแล้วให้กลับมามีชีวิตชีวาได้เหมือนเดิม ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่มีแชมพูหรือครีมนวดตัวไหนบนโลกใบนี้ที่ทำแบบนั้นได้ เพราะความเป็นจริงที่ถูกต้องแล้วนั้น ครีมนวดหรือแชมพูแพงๆของคุณนั้น มันมีหน้าที่เพียงแค่ช่วยป้องกันการเกิดผมแตกปลายได้เท่านั้น

แต่ไม่สามารถช่วยให้เส้นผมที่แตกปลายไปแล้วนั้นกลับมาดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งประสิทธิภาพของครีมนวดหรือแชมพูนั้นจะทำหน้าที่เพียงแค่เคลือบเส้นผมของคุณนั้น ให้นุ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง ดังนั้น จะดูโฆษณาอะไร ก็ต้องคิดตามและอย่าเชื่อไปเสียหมด เพราะคำว่าโฆษณา ก็คือทำให้คุณรู้สึกดีกับสินค้านั้นเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย  แจกสูตรหวยยี่กี

นรสิงห์ สัตว์ในตำนาน

         หากจะพูดถึงสัตว์ในตำนาน  ในวรรณกรรมของไทยเรานั้นมีสัตว์ในตำนานมากมายหลายชนิดด้วยกัน  ซึ่งรวมถึงพญานาคและพญาครุฑก็นับว่าเป็นสัตว์ในตำนานเช่นเดียวกัน แต่สำหรับวันนี้ที่เราจะมาพูดถึงนั้นก็คือสัตว์โบราณชนิดหนึ่งที่มีชีวิตมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์และในปัจจุบันนั้นเราไม่เคยพบเห็นสัตว์ชนิดนี้แบบตัวเป็นๆหรือว่าของจริงเลยแต่เราสามารถเห็นสัตว์ชนิดนี้ได้ตามจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์หรือแม้แต่ตามภาพวาดที่เป็นภาพวาดโบราณต่างๆ สำหรับสัตว์ที่เป็นนรสิงห์นั้นว่ากันว่าเป็นอสุรกายตนหนึ่ง ซึ่งลักษณะรูปร่างของนรสิงห์นั้นจะมีลักษณะของลำตัวเหมือนกับคนแต่ว่ามีหัวเหมือนกับสิงห์

       ตามความเชื่อมีการกล่าวเอาไว้ว่าแต่เดิมทีนะนรสิงห์ก็คือคนนั่นเองเพียงแต่ว่าได้ไปขอพรกับพระพรหมด้วยพรที่ขอนั้นเขาต้องการให้ตัวเขานั้นมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง  และไม่ว่าใครก็จะไม่สามารถต่อสู้หรือต่อกรกับเขาได้นั่นเองสิ่งที่เขาขอนั้นไม่ใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่จะไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้เขาขอถึงขนาดที่ว่าไม่ว่าจะเป็นเทวดาหรือใครก็ตามแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งความแข็งแกร่งของเขาได้แน่นอนว่าสิ่งที่เขาขอนั้นพระพรหมได้มีการทำตามคำที่เขาขอพระพรหมนั้นได้ไปขอร้องพระอินทร์พระอินทร์ก็ได้มีการไปทูลขอร้องให้กับพระนารายณ์อวตารช่วยทำให้ความต้องการของนรสิงห์นั้นสมหวัง

            ดังนั้นพระนารายณ์จึงได้มีการให้พรตามที่นราศิลป์ต้องการซึ่งก็ได้มาในรูปลักษณ์ดังที่กล่าวไปข้างต้นนั้นเอง  อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถจัดการกับอสูรกายตอนนี้ได้แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องเสียชีวิตลงจากการที่มันต้องสิ้นสุดอายุขัยตามกาลเวลาของมันนั่นเอง

       ในปัจจุบันการวาดรูปของนรสิงห์นั้นไม่ได้มีการวาดเพียงแค่ตัวเป็นคนหัวเป็นสิ่งเพียงเท่านั้นแต่ยังมีการแปลงสภาพ บอกเล่าเรื่องราวของสิงห์ในป่าหิมพานต์ว่ามีรูปลักษณ์หน้าตาเป็นแบบไหนซึ่งสิงห์ในป่าหิมพานต์นั้นจะเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความสวยสง่าน่าเกรงขามและแน่นอนว่าในบริเวณพื้นที่ของวัดโดยเฉพาะบริเวณแถวโบสถ์มักจะมีรูปปั้นของสิงห์ประจำอยู่ทางขึ้นของโบสถ์ซึ่งสิ่งนั้นถือว่าเป็นสัตว์ที่มีบุญญาธิการเป็นอย่างมาก

             สำหรับสิ่งนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆเลยก็ได้แก่ราชสีห์ซึ่งจะมีรูปลักษณ์ที่สวยงามมีพละกำลังมหาศาลแต่อีกแบบนึงก็คือสิงห์ฺที่เป็นสิงห์ผสม  รายการผสมกันนั้นก็จะเป็นการผสมพันธุ์กันระหว่างราชสีห์ กับสัตว์ประเภทอื่นทำให้กลายมาเป็นสิงห์ผสมนั่นเอง 

      สำหรับนรสิงห์นั้นในปัจจุบัน เรายังคงเห็นตามภาพวาดหรือตามรูปปั้นต่างๆแต่ไม่ค่อยมีใครมาบูชานรสิงห์กันมากนักเพราะจะเน้นบูชาสัตว์อื่นแทนเช่นพญาครุฑหรือพญานาคนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  aecasino

ประวัติของหัวสิงโต

สำหรับตำนานของการเชิดสิงโตนั้นเป็นตำนานของคนจีนที่มีมาตั้งแต่ในยุคสมัยโบราณอันที่จริงแล้วตำนานเกี่ยวกับการเชิดสิงโตนั้นมีมากมายหลายตำนานด้วยกันสำหรับในครั้งนี้จะมีการพูดถึงตำนานเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์ซึ่งจะมีการเชิดสิงโตเข้ามารวมอยู่ในเงื่อนไขของตำนานในครั้งนี้ด้วย 

         เลยว่ากันว่าในวันที่มีการไหว้พระจันทร์นั้นจะเป็นวันที่มีสัตว์ร้ายหรือเรียกกันว่าปีศาจนั้นมาปรากฏในโลกมนุษย์ซึ่งสัตว์ในตัวนี้นั้นมักจะมาทำลายพืชสวนไร่นาของชาวบ้านให้ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

และตัวชาวบ้านเองก็เกรงกว่าสัตว์รายนี้มากจึงไม่มีใครกล้าที่จะออกมาต่อกรกับสัตว์หลายชนิดนี้โดยเหตุการณ์ที่สัตว์ร้ายนี้ออกมาทำลายพืชสวนไร่นาของชาวบ้านนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีซึ่งมันจะมาเฉพาะแค่วันไหว้พระจันทร์เพียงเท่านั้น

          ดังนั้นหลังจากที่ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกสัตว์ร้ายข่มเหงรังแกเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องพวกเขาจึงได้รวมตัวกันไปขอพรกับพระเจ้าให้ช่วยส่งใครก็ได้ลงมาช่วยพวกเขาในการขับไล่สัตว์ร้ายนี้ไปดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้มีการส่งสัตว์เลี้ยงของพระองค์ลงมายังโลกมนุษย์ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่พระองค์ทรงลงมานั้นมีหน้าตาลักษณะเหมือนกับสิงโตเป็นอย่างมากเมื่อมันลงมาถึงแล้วไม่เห็นเจ้าสัตว์ร้ายกำลังทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเขาสิงโตตัวนี้ก็ได้มีการคำรามขู่และจ้องจะทำร้ายปีศาจตัวนั้นทำให้ปีศาจร้ายตัวนั้นเกิดความหวาดกลัวหลังจากนั้นมันก็หนีหายไป

        เมื่อชาวบ้านหญิงดังนั้นต่างก็พากันดีใจเป็นอย่างมากกราบไหว้ขอพรสิงโตตัวดังกล่าวรวมถึงขอบคุณพระเจ้าที่มีการส่งสิงโตลงมาช่วยในปีต่อมาชาวบ้านก็ไปหาพระเจ้าเช่นเดิมเพื่อให้พระเจ้านั้นช่วยส่งสิงโตลงมาปราบปีศาจไร้เช่นเดิมและสิงโตตัวดังกล่าวนั้นไม่ยอมลงมาช่วยเหลือชาวบ้านทำให้ชาวบ้านไม่รู้จะทำเช่นไรเพราะเจ้าปีศาจร้ายตัวเดิมก็กลับมาทำลายพืชสวนของชาวบ้านเช่นเดิมดังนั้นชาวบ้านจึงช่วยกันคิดหาหนทางด้วยการสร้างสิงโตปลอมขึ้นมาเรียนแบบสิงโตที่เมื่อปีที่แล้วเคยลงมาช่วยพวกเขาหลังจากนั้นเมื่อเจ้าปีศาจร้ายเห็นสิ่งแปลกปลอมที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมันก็เกิดความหวาดกลัว

         และด้วยเหตุนี้เองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในทุกๆปีที่ตรงกับวันไหว้พระจันทร์ชาวบ้านจึงได้มีการเชิดสิงโตขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าสิงโตได้ลงมาคุ้มครองชาวบ้านแล้วและเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายลงมาทำลายพืชสวนไร่นาของตนเองและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาปีศาจร้ายก็ไม่เคยลงมาทำลายข้าวของหรือพืชสวนไร่นาของชาวบ้านอีกเลย

 

สนับสนุนโดย  aecasino

โรมันและการถ่ายทอดงานศิลปะ 

วัฒนธรรมการอยู่อาศัยของผู้คนหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนมีการพัฒนาตลอดเวลา ผู้คนในยุคปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบหรือมีการศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะหรือแม้แต่จะเป็นเรื่องการจดบันทึกสิ่งต่างๆทางประวัติศาสตร์อย่างไรก็ตามนี่จึงเป็นหนึ่งสิ่งที่เรามันได้สร้างรูปแบบ

หรือแม้แต่จะเป็นวิธีการเข้าถึงง่ายมากที่สุด ชาวโรมันอีก 1 ยุคที่มีการฟื้นฟูทั้งด้านงานศิลปะความสามารถความสนใจหรือแม้แต่จะเป็นความสำคัญคุณค่างานศิลปะต่างๆเหล่านี้มีการส่งต่ออยู่ตลอดเวลาให้ผู้คนต่างๆสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ว่าจะเป็นการสร้างสุนทรียภาพแห่งการรับรู้เรื่องราวต่างๆ

หรือสุนทรียภาพแห่งการเจริญรุ่งเรืองๆของเจ้าตัวมันก็คล้ายกับชาวกรีกเขียนคำว่าไม่มีความสนใจโลกหลังความตายเท่าไหร่หรือแม้แต่จะเป็นความเชื่อโลกหลังความตายไม่มีความสนใจมากนักศึกษาต่างๆจึงถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของวิถีชีวิตในการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันมากที่สุด

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการอยู่อาศัยบุคคลของเช่ายุคโรมันมีการพัฒนาเวลาเป็นการส่งต่อหรือไม่ก็จะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆทางประวัติศาสตร์เรื่องราวทางด้านศิลปะหรือแม้แต่จะมีวิธีการใช้ชีวิตของผู้คนก็มีการพัฒนาตลอดเวลาให้มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์หรือแม้แต่จะเป็นศาสนาต่างๆที่มีการพัฒนาตลอดเวลาทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านงานศิลปะต่างๆที่ถูกส่งต่อเครื่องไม้เครื่องมือหรือแม้แต่จะมีลักษณะรูปร่างต่างๆก็มีการพัฒนาตลอดเวลาอย่างไรก็ตามโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันผู้คนก็ได้เห็นรูปแบบของงานศิลปะต่างๆที่มายิ่งขึ้นยกลงมันก็เป็นการถ่ายทอดงานศิลปะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ในยุคแรกๆของชาวโรมันนั้นได้รับการสืบทอดงานศิลปะหรือได้รับอิทธิพลมาจากยุคกรีกแต่อย่างไรก็ตามในยุคต่อมาก็เริ่มมีการพัฒนางานศิลปะของตัวเองที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นมีการสร้างรูปแบบงานที่เสมือนจริงหรือแม้แต่จะเป็นการปฏิบัติตามดังๆที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดงานหล่อขี้ผึ้งที่เป็นการบูชาบรรพบุรุษหรือแม้แต่ผู้ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ

อย่างไรก็ตามจุดประสงค์สำคัญอย่างยิ่งที่โรงงานต่างๆได้ถูกสร้างงานเกี่ยวกับศิลปะที่มาก รวมทั้งยังเป็นในส่วนของการพัฒนาประติมากรรมของโรมันก็มีการพัฒนาด้านข้างเยอะรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของชาวโรมันได้รับชื่อเสียงค่อนข้างมากในความเหมือนจริงหรือแม้แต่จะเป็นรายละเอียดต่างๆ

งานศิลปะของยุคโรมันเป็นยุคที่มีการพัฒนางานศิลปะค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นสถานที่เกี่ยวกับทางด้านการบูชาต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นบรรพบุรุษต่างๆจึงทำให้ยุคโรมันเป็นยุคที่สำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาเกี่ยวกับงานศิลปะโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันก็ยังมีรูปแบบการทำงานศิลปะหรือแม้แต่จะเป็นลักษณะการทำงานศิลปะของชาวโรมันให้เห็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนต่างๆสามารถเข้าถึงง่ายมากที่สุด 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบาคาร่า

สมเด็จพระเจ้าตากสิน

 

คนไทย ไม่มีใครไม่รู้จักท่าน เพราะท่านคือผู้กอบกู้เอกราชให้กับแผ่นดินไทย และหากจะพูดถึงประวัติศาสตร์ไทยทั้งหมดก็คงไม่มียุคไหนที่มีความคลุมเครือ เท่ากับประวัติศาสตร์ไทย ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพราะถ้าย้อนกลับไปนั้น มีเรื่องราวมากมายเหลือเกินที่เป็นประเด็นที่น่ากังขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พระองค์ท่านกู้เงินจากจีนเป็นจำนวน หกหมื่นตำลึง หรือท่านทรงมีสติที่ฟั่นเฟือนจริงๆ

หรือเป็นเพียงแค่ฉากที่แกล้งทำเพื่อหนีหนี้จากจีน และก็ประเด็นที่ท่านถูกสำเร็จโทษหรือมีตัวแทนที่หน้าเหมือนมารับโทษแทนพระองค์ท่าน รวมไปถึงการทรงหนีไปผนวชที่นครศรีธรรมราช ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมดได้เคยมีการวิเคราะห์และตั้งสมมตฐานไปต่างๆนานๆ มากมาย แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ แต่ตำนานที่เล่าขานและเป็นประเด็นที่สุดนั้นเห็นจะเป็นเรื่องที่พระเจ้าตากได้กู้เงินจำนวนหกหมื่นตำลึงจากจีน

ซึ่งเรื่องราวนั้นเกิดจากที่เมื่อครั้งก่อนนั้นพระอนุชาของพระเจ้าตาก สองพระองค์ที่มีนามว่า เจียนซื่อและเจียนจิ้น ทำมาค้าขาย และได้ถวายผลกำไรให้แก่พระเจ้าตากเป็นจำนวน ห้าพันถึงหนึ่งหมื่นตำลึง และในช่วงนั้นได้มีข่าวเล็ดลอดออกมาจากทางฝั่งพม่าว่าจะมีการยกทัพมารบกับไทย แต่ในช่วงนั้นกรมอาวุธของไทยส่วนมาชำรุดทรุดโทรม จึงต้องมีการการจัดดาบเหล็กดีประมาณสามหมื่นเล่มเพื่อเตรียมไว้รอทัพ

แต่ขาดทุนทรัพย์ที่ไม่เพียงพอในการหาอาวุธและเหล็กที่จะมาตีดาบ พระเจ้าตากจึงได้ทำการปรึกษาหารือกับพระอนุชาและทหารจีนที่สนิทเพื่อปรึกษาและได้ส่งจดหมายเพื่อขอกู้เงินจากพระเจ้าจีนเพื่อนำเงินมาใช้เป็นจำนวนหกหมื่นตำลึง พอเวลาผ่านไปทางการจีนได้ทำจดหมายมาทวงเงินและดอกเบี้ย หากไม่ชดใช้จะทำการยึดเมืองและประเทศ แต่ในเวลานั้น ประเทศไทยยังต้องสู้รบกับพม่าอยู่

จึงไม่สามารถที่จะหาเงินมาใช้ในเวลาที่กำหนดได้ พระเจ้าตากจึงได้ออกอุบายให้น้องชายได้ยกทัพออกไปตีเมืองเขมรและครองเมืองอยู่ที่นั่น ส่วนตนที่อยู่ทางนี้จะแกล้งเป็นคนวิกลจริตไม่สามารถครองเมืองได้ จึงต้องถูกข้าราชการจับบวชเพราะเป็นบ้าและไม่สามารถปกครองประเทศได้ และเมื่อน้องชายกลับมาให้ขึ้นครองราชย์แทนและเนรเทศข้าไปอยู่หัวเมือง หนี้สินก็ถือว่าเป็นอันจนกัน

เพราะตัวพระเจ้าตากเป็นคนกู้ไม่ใช่ประเทศกู้  ซึ่งเรื่องราวนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าจริงเท็จแล้วนั่นเป็นเช่นไร เพียงแต่เป็นตำนานที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ในหนังสือเรื่องราวของธนบุรีที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ เท่านั้น

 

สนับสนุนโดย  bigbet999

มาทำความรู้จักประเภทของภาพยนตร์ กันดีกว่า

ไม่มีใครในที่นี้ไม่รู้จักภาพยนตร์ หรือ หนัง ภาพยนตร์เป็นความบันเทิงอีกหนึ่งรูปแบบที่ทำให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้รับชม นั้นก็ขึ้นอยู่ว่าภาพยนตร์ที่กำลังดูอยู่นั้นดำเนินเรื่องราวอย่างไร หรือภาพยนตร์บางเรื่องอาจจะไม่ได้ช่วยผ่อนคลายมาหนัก

เป็นเพราะว่าภาพยนตร์แต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการผู้รับชมได้รับสารที่แตกต่างกันออกไป

1.บู๊ (Action) คือ ภาพยนตร์ที่มีการต่อสู้ เป็นจุดสำคัญของเรื่อง ภาพยนตร์ประเภทนี้จะเน้นเรื่องการต่อสู้ ความรุนแรง มีอาวุธอย่างเช่น ปืน มีด ระเบิด หรือในภาพยนตร์บางเรื่องอาจจะมีสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เกินความเป็นจริงไปบ้าง เพื่อให้ความสนุกแก่คนดู

2.ผจญภัย (Adventure) คือ ภาพยนตร์สำหรับการผจญภัย อย่างเช่น การเดินเข้าป่า ข้ามทะเล เพื่อหาขุมทรัพย์ หรือของสำคัญ ในสถานที่ใดที่หนึ่ง และพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ทำให้ได้เห็นวิธีการใช้ชีวิตเพื่ออยู่รอดกับสถานการณ์ต่างๆ เป็นภาพยนตร์สำหรับคนที่ชอบความท้าทาย

3.การ์ตูน (Animation) คือ ภาพยนตร์การ์ตูน ที่สามารถดูได้ทุกช่วงวัย แต่จะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเด็ก เพราะภาพวาดของการ์ตูนนั้นจะดูง่ายและเข้าถึงได้ง่ายกว่าการแสดงของคน

4.ตลก (Comedy) คือ ภาพยนตร์ตลก เป็นแนวที่อาจจะมีทั้งสาระหรือไม่มีสาระแทรกแซงอยู่เลยก็ได้ เพราะจุดประสงค์ของภาพยนตร์แนวนี้ต้องการให้คนดูหัวเราะ ดูแล้วรู้สึกเบาสมอง หรือคลายเครียด

5.อาชญากรรม (Crime) คือ ภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน ที่ต้องมีสถานการณ์อาชญากรรมเกิดขึ้น โดยที่มีเงื่อนงำให้มีข้อสงสัยมากมาย ภาพยนตร์ประเภทนี้จะทำให้รู้สึกอยากลองไขคดีด้วยตัวเอง ชวนให้คิดตาม เหมาะสำหรับคนที่ชอบแก้ปริศนาที่มีความซับซ้อน หรือชอบจับผิดจับสังเกต

6.สารคดี (Documentary) คือ ภาพยนตร์ที่ให้สาระความรู้ เพราะจะถ่ายทอดจากเรื่องจริงทั้งหมด มีสารคดีหลายรูปแบบที่สามารถเลือกดูกันได้ตามใจชอบ หลายๆคนอาจจะบอกว่าชอบการดูสารคดี แต่ไม่ได้ชอบทุกแบบ อย่างเช่น สารคดีสัตว์ สารคดีประวัติศาสตร์บ้านเมือง สารคดีวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

7.ชีวิตประจำวัน/อารมณ์ (Drama) คือ ภาพยนตร์ที่เกิดในชีวิตประจำวัน ที่สามารถเห็นได้ทั่วไป ภาพยนตร์ประเภทนี้จะมีลักษณะที่เป็นไปตามเส้นเรื่อง อารมณ์ของนักแสดงในแต่ละบทบาท ในหนึ่งเรื่องจะมีหลายอารมณ์หลายรูปแบบทั้ง ความรัก ตลก เศร้า

8.หนังผู้ใหญ่ (Erotic) คือ ภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ที่ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นเพราะภาพยนตร์ประเภทนี้นั้นมีฉากที่ติดเรท เล่าเรื่องเกี่ยวกับเพศเกือบทั้งเรื่อง

9.ครอบครัว (Family) คือ ภาพยนตร์ครอบครัว ที่เกี่ยวกับความรัก หรือเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว จุดประสงค์ของภาพยนตร์ประเภทนี้เพื่อเชิญชวนให้ครอบครัวมารับชม มาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยจับยี่กี

ประวัติศาสตร์การต่อสู้ในกรุงโรม

 ซึ่งการที่จะเข้าไปชมการแข่งขันในโคลอสเซียมในยุคนั้นก็ไม่แตกต่างอะไรกับการไปดูฟุตบอลใหญ่ๆเลยคือมันจะเป็นแหล่งขุดทองชั้นดีสำหรับแหล่งพ่อค้าแม่ขายต่างๆที่ด้านหน้าบริเวณทางเข้ามันก็จะเรียงรายไปด้วยข้าวของต่างๆมากมายตั้งแต่ของกินยังของที่ระลึก

แต่ทว่ามันจะไม่มีข้าวเหนียวหมูปิ้งไก่ย่างของที่ชาวโรมันก็คือใส้กรอกโรมันถั่วลูกไก่มะกอกแป้งอบต่างๆและก็ไวน์ทั้งนี้ก็ยังมีลูกบอลกาชาติโบราณ

โดยข้างในนั้นก็จะมีเหรียญเอาไว้แลกรางวัลอะไรต่างๆมากมายตั้งแต่เกลือยังอพาร์ทเม้นท์หรูๆในย่านแอร์อัดของชาวโรมัน

นอกจากนี้เรามาดูที่ด้านในสนามกันต่อกาเดียเตอก็ได้ทำการต่อสู้ที่ด้นหน้าองค์จักรพรรดิพระองค์ก็ได้นั่งอยู่ที่นั่งที่เป็นคอดที่แยกพระองค์ออกจากชนชั้นทั้งหลายแล่และแน่นอนว่าทางเข้าจะต้องแยกออกจากชนชั้นเพื่อเป็นการป้องกันกลิ่นตัวของผู้คนกลัวว่าจักรพรรดิจะไปลื่นกับเศษใส้กรอกที่ชาวบ้านเขาได้ทิ้งเอาไว้ที่นั่งนี้มันก็ได้มีฟังก์ชั่นมากมายกว่าจะเป็นคอก

เมื่อครั้งที่จะต้องมาถึงจุดไคลแม็กที่นักรบได้สู้กับจนใกล้จะเสียชีวิตไปแล้วผู้คนก็จะมองมาที่คอกคอกนี้เพื่อจะดูว่าจักรพรรดิจะตัดสิ้นใจให้นักรบผู้ที่กำลังจะแพ้มีชีวิตอยู่ตอหรือมีโดยการยกนิ้วโป้งคว่ำหรือหงายบางครั้งผู้คนในสนามก็ถึงกับอินมากๆตะโกนบอกให้ฆ่ามันๆ

นอกจากนี้เพื่อหากว่าองค์จักรพรรดิอยากให้คนนั้นรอดมาก็ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นจะไม่ตายเพราะว่าส่วนมากาเดียเตอก็จะออกมาตายด้วยบาดแผลจากการต่อสู้แล้วแสงก็แล้วสีก็แล้วทีนี้เรามาดูในเรื่องของเสียงกันต่อเลยดีกว่าในยุคนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีสตูดิโอหรูแต่ใช่ว่าเขาจะไม่มีอะไรเลยทางคณะกรรมาการการจัดการแข่งขันกรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะกระตุ้นอารมณ์

สำหรับเครื่องดนตรีที่เขาเอาไว้ใช้ปประกอบสนามในสมัยนั้นก็จะเป็นแตรเขาสัตว์กลองแล้วก็เครื่องดนตรีโบราณอีกมากมายในขณะที่ผู้คนกำลังเอ็ดจอยกับเครื่องดนตรีพวกนี้นักรบก็จะเอ็นจอยอยู่กับเสียกระทบของดาบเสียงคำรามของสัตว์หรือว่าจะเป็นเสียงกรีดร้องจากสาทที่ร้องขอชีวิตในนั้น

ซึ่งหลังจากการกระตุ้นอารมณ์ต่างๆของผู้ชมแล้วการเล่นเพลงต่างๆในสนามเขาก็ยังได้แฝงอะไรต่างๆมากมายอย่างเช่นให้สัญญาณว่าเมื่อใดที่คนจะเปิดประตูปล่อยพวกสัตว์ร้ายให้เข้ามาในสนามหรือว่าให้สัญญาณการต่อสู้ต่อไปมันจะมีขึ้นมาเมื่อไหร่พอถึงช่วงครึ่งเขาก็จะมีคอนเสิร์ตมากั้นเหมือนกับซุปเปอร์โบว์ลของอเมริกาเลย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี ruay

ตำนานพญานาคแม่น้ำโขง

แม่น้ำโขงสำหรับหลายๆชนชาติอาจจะมองว่ามันเป็นแม่น้ำธรรมดาทั่วไปแต่สำหรับประเทศไทยและประเทศลาวโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่แถวๆแม่น้ำเขากลับมีความเชื่อถึงสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติว่าจะต้องเป็นที่อาศัยของพญานาคเจ้าผู้ปกครองบาดานอยู่แน่ๆ

ซึ่งถ้ามีใครเข้าไปรบกวนก็อาจจะเกิดความวินาศสันตะโรนั้นๆได้วันนี้เราก็จะมาเล่าถึงงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เชื่อว่ามันเป็นผลของพญาบาดาล

โดยเรื่องที่จะพูดนั้นก็จะกล่าวถึงสะพานข้ามแม่น้ำไทยลาวที่สองที่อยู่บริเวณจังหวัดมุกดาหารแล้วก็สุวรรณเขตของประเทศลาว

นอกจากนี้เดิมที่แล้วชาวบ้านเขาก็ได้เชื่อกันอยู่แล้วว่ามันจะมีอะไรที่ไม่ปกติจากเรื่องราวที่มีชาวบ้านได้เล่ากันมาปากต่อปากอย่างเช่นเหตุการณ์เมื่อครั้งหนึ่ง

เมื่อชาวบ้านได้เห็นเรือเล็กลำหนึ่งลอยอยู่กลาแม่น้ำชาวบ้านได้เห็นเรือไม่มีเจ้าของแบบนี้ก็หวนหมูสิในเมื่อคนทิ้งเรือไปเราก็ไปเอาเรือมาใช้เองสะเลยจากนั้นก็ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งก็ได้พายเรือไปแต่พอไกล้จะถึงเรือลำนั้นอยู่เรือก็ได้ขยายขึ้นมากลายเป็นเรือขนาดใหญ่สูงทำเอาชาวบ้านรีบหนีกลับมาขึ้นฝั่งกันแทบไม่ทัน

ดังนั้นเมื่อได้ขึ้นฝั่งแล้วชาวบ้านได้หันกลับไปมองปรากฏว่าเรือลำดังกล่าวมันได้เลยไปแล้วหรืออีกเรื่องหนึ่งก็คือการเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่ว่ายอยู่ในแทบนั้นว่ากันว่าชาวบ้านเขาเห็นตัวอะไรก็ไม่รู้ที่มีขนาดยาวเหมือนงูเลยแล้วก็มีครีบอยู่กลางหลังว่ายมาจากฝั่งของประเทศลาวจนมาถึงฝั่งไทย

ซึ่งทิศทางที่สิ่งแปลกประหลาดมันได้ว่ายเข้ามานั้นมันก็เป็นทิศทางถวนกระแสน้ำเสียด้วยโดยแม่น้ำโขงปกติจะเป็นแม่น่ำที่ไหลเชี่ยวมากไม่ค่อยจะเห็นอะไรว่ายถอนกระแสน้ำได้หรอกชาวบ้านก็ตื่นเต้นว่าเจออะไรเด็ดๆเข้าแล้วจะวิ่งไปของงหวยเสียหน่อย

เมื่อชาวบ้านกำลังจะวิ่งไปถึงริมน้ำก็พบว่าเจ้าสิ่งเหล่านี้มันได้หายไปแล้วจะเป็นอะไรกันแน่เค้าได้ตาฝาดไปหรือว่ามันเป็นปลาอะไรที่ว่ายลงไปในน้ำแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะอธิบายอะไรได้แต่จากเรื่องเล่าทั้งหลายแล่ก็ได้ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแถวนี้มันจะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิอยู่แน่ๆแลย

นอกจากนี้เมื่อได้ทราบตำนานที่ชาวบ้านได้เจออะไรมาแถวๆนี้แล้วเรามาดูเรื่องของการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำไทยลาวจุดนี้กันดีกว่าโดยมันเป็นสะพานที่มีปัญหาที่เยอะแยะมากมายเรื่องตั้งแต่การก่อสร้างขึ้นมาก็มีการถกเถียงกันมายาวนานมากกว่าจะสร้างได้ก็ประมาณปี2546โปรเจคมันถึงได้เริ่มขึ้น

ดังนั้นตอนเริ่มผู้รับเหมาเขาก็สร้างออฟฟิตเอาไว้แถวๆนั้นเป็นเหมือนป้อมไม่ว่าช่างหรือวิศวะกรอื่นๆจะใช้เป็นที่พักผ่อนก็ว่าไปแต่ยังไม่ทันได้นิมนต์พระมาทำพิธีเปิดออฟฟิตเลยก็มีคนเข้ามาผูกคอตายที่แห่งนี้ก่อน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์ ถูกกฎหมาย

ยุคสมเสด็จพระบรมไตรโลกนาถ

นอกจากนี้เมื่อในสมัยยุคปลายๆของอาณาจักรสุโขทัยก็ได้มีอาณาจักรเล็กๆอีกแห่งหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นมาทางด้านตอนใต้นั่นก็คืออาณาจักรอยุธยานำทีมโดยพระเจ้าอู่ทองและด้วยความที่ว่าผังเมืองของอยุธยามันจะเป็นเกาะที่มีน้ำล้อมรอบเลยก็นับว่าเป็นภูมิศาสตร์ที่ดีมากๆเลยก็เลยทำให้อาณาจักรอยุธยาสามารถเติบโตได้อย่างรวบเร็วแล้วก็สามารถกลืนอาณาจักรสุโขทัยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยาได้เลย

เนื่องจากนี้ก็ได้เริ่มมีพวกชาวตะวันตกพวกแรกได้เข้ามาค้าขายกันและพวกนี้ก็คือชาวโปรตุเกตในเวลานั้นเองก็เป็นช่วงของสมเสด็จพระบรมไตรโลกนาถบ้านเมืองก็จะเริ่มถูกจัดระบบระเบียบให้มีกฎเกณฑ์มลลเทียนบาลอะไรขึ้นมา

ซึ่งมันก็จะเป็นกฎหมายใช้ในการปกครองทำให้ช่วงเวลานั้นเริ่มมีพวกขุนนางขึ้นมาในพระราชสำนักแต่ถึงแม้ว่าจะมีระบบระเบียบยังไรก็ตามก็เป็นธรรมดาที่อาณาจักรจะมีทั้งขึ้นๆลงๆมีไร้เสถียรภาพอะไรบ้าง

สำหรับอยุธยาในสมัยนั้นก็ใช่ว่าจะสงบเรียบร้อยดีมาตลอดมันก็เกิดการคานอำนาจกันระหว่างขุนนางกับกษัตริย์ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาเลยหากจะตบตีกันโดยลำพังมันก็โอเคถ้าไม่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยว

นอกจากนี้ทางทิศเหนือที่ดินแดนอาณาจักรของตองอูที่ได้เริ่มแผ่ขยายอำนาจเข้ามาก็ได้เข้ามาตีเอาพื้นที่ล้านนาไปเสร็จแล้วก็รามลงมาจนถึงอยุธยาจึงทำให้ทั้งสองอาณาจักรนี้ได้เจอกันแล้วก็อย่างที่รู้ๆกันก็จะเป็นการต้นกันระหว่างการตบตีกันของไทยกับพม่า

ซึ่งได้ทำสงครามมากกว่า20รอบกันเลยทีเดียวในชวงเวลานั้นเองก็มีเหตุการณ์สำคัญที่เจอขึ้นอย่างมากมายอย่างเช่นการสูญเสียพระศรีสุริโยทัยตรีที่กล้าหาญตามมาด้วยการเสียกรุงครั้งที่1

เนื่องจากความอ่อนแอของราชสำนักที่มีมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เลยทำให้กรุงศรีอยุธยาถูกตีแตกได้อย่าง่ายดายมากทำให้อาณาจักรอยุธยาในตอนนั้นต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าแล้วก็มีการนำตัวมากมายของคนในราชวงศ์ไปเป็นตัวประกันอย่างเช่นพระนางสุพรรณกัลยาหรือว่าสมเด็จพระนเรศวรเองด้วย

ดังนั้นในระหว่างที่พระองค์ได้ไปอยู่ที่พม่าพระองค์ก็ได้ไปฝึกอยู่ที่นั่นไม่ว่าจะทั้งหมุนทั้งรบสุดท้ายก็ได้กลับมายังอยุธยาแล้วก็ได้กอบกู้อยุธยาทำให้เกิดเหตุการณ์ชนช้างอะไรขึ้นมาและก็ไล่พม่าให้มันกลับบ้านมันไปผลก็ตามมาก็คืออยุธยาก็กลายมาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อีกรอบ

โดยในรอบนี้เองก็ได้เติบโตขึ้นอย่างแรงคือได้มีชื่อเสียงไปถึงยุโรปเลยด้วยความที่ว่ายุคของอาณาจักรสยามเปิดเสรีกับตะวันตกอย่างมากด้วยทุนเดิมจากเกาะอยุธยาได้ตั้งอยู่ในระหว่างแม่น้ำแล้วก็เลยทำให้มีเรือแล้นมาอย่างมากมายทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทำให้ฝรั่งเป็นที่นิยมของฝรั่งเหมือนอย่างปัจจุบันนี้เลย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ขายหวยออนไลน์

ตำนานองค์พระพูดได้ วัดชุม

ประเทศไทยของเรานั้นนับได้ว่าก็มีเรื่องที่แปลกประหลาดอยู่เยอะเหมือนกับโดยบางทีหลายๆคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันมีอะไรที่ชวนขนลุกแฝงอยู่ในจังหวัดที่เราอยู่ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่ากับสถานที่ลี้ลับที่เราจะนำเอามาเล่าให้คุณได้อ่านกันในวันนี้ 

สำหรับรูปปั้นพูดได้เคยได้ยินเรื่องรูปปั้นพระที่สามารถสื่อกับมนุษย์อย่างเราได้หรือไม่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปปั้นพระก็ชั่งแต่อยู่ๆได้พูดขึ้นมาแล้วก็ต้องมีหลอนพอสมควรแต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงที่ในทุกวันนี้บบางคนก็ยังสามารถได้ยินองค์พระท่านพูดอยู่เลย

ซึ่งพระองค์ดังกล่าวคือพระพุทธรูปองค์ที่ตั้งอยู่ในวัดศรีชุมเป็นโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ว่ากันว่ารูปปั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยพ่อขุนรามหรือว่าก่อนน่านั้นแล้วแต่ว่าเรื่องราวของพระพูดได้นั้นเรื่องได้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา

เมื่อตอนที่สมเด็จพระนเรศวรมาหาราชท่านจะนกทัพไปโจมตีกบฏที่หัวเมืองสวรรคโลกโดยชาวเมืองพวกนั้นก็คือคนไทยด้วยกันเองนี่แหละและพอคนไทยรู้ว่าจะต้องไปรบกับคนไทยทหารบางคนก็เกิดอาการระเหี่ยใจไม่อยากจะสู้รบ

ดังนั้นพระนเรศวรจึงต้องพาทหารมาหยุดวางแผนก่อนแล้วก็จะกอบกู้กำลังทหารแบบนี้โดยการให้มาไหว้พระในระหว่างทางในการยกทัพไปในครั้งนี้สุโขทัยมันก็จะเป็นทางผ่านพระนเรศวรก็เลยให้ทหารทุกคนเข้ามายังวัดต่อหน้าพระพุทธรูปจะทำการไหว้ถามประมาณเหมือนกับเซี่ยมซีอะไรประมาณนั้น

นอกจากนี้ก็มีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อนั่นก็คือทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงตอบรับออกมาจากองค์พระดังกล้องไปทั่วประมาณว่าให้ทหารไปรบไปตีพวกสวรรคโลกดังนั้นทหารก็จึงแน่ใจว่าจะต้องเป็นบัญชาการจากสวรรค์แน่เลยเราจะต้องไปตีพวกกบฏเราจะต้องมีชัยชนะก็มีกำลังใจหลังจากนั้นมาเรื่องราวองค์พระพูดได้ก็ได้เรื่องลือไปทั่วเลยและได้ส่งผลให้สถานที่แห่งนี้ถูกพูดถึงในเรื่องของพระที่พูดได้

เนื่องจากนี้สถานที่แห่งนี้ก็ยังได้เป็นสถานถือน้ำพิพัฒน์สัตยาก็คือพิธีที่จะสาบานตนว่าจะไม่ทรยศต่อกษัตริย์เอาจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นแผนการทั้งหมดของพระนเรศวรล้วนๆเลยคือว่าข้างหลังขององค์พระก็จะเป็นกำแพงที่ว่าข้างในกำแพงจะมีรูที่จะสามารถเดินขึ้นไปได้และข้างในนี้ก็จะเป็นโพรง

ซึ่งมีเสียงอะไรเกิดขึ้นในกำแพงนี้เสียงนี้ก็จะกล้องราวกับว่ากำลังพูดได้เลยแต่ทว่าในเรื่องแบบนี้มีแค่น้อยคนเท่านั้นที่รู้หนึ่งในนั้นก็คือองค์พระนเรศวรเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  aesexy