ข้อมูลเกี่ยวกับดวงอาทิตย์

    อย่างที่รู้กันดีว่าดวงอาทิตย์นั้นก็คือดาวโรคชนิดหนึ่งซึ่งเป็นดาวโรคทั่วไปมีลักษณะของรูปวงกลมแต่ว่าดวงอาทิตย์นั้นจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มากและที่สำคัญดวงอาทิตย์มีความร้อนแรงเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าดวงอาทิตย์นั้นมีสารประกอบหลักที่สำคัญนั่นก็คือก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมนั่นเอง

นอกจากนี้ดวงอาทิตย์นั้นยังมีการส่องสว่างมาอย่างยาวนานอายุหลาย พันล้านปีมาแล้วอย่างไรก็ตามดวงอาทิตย์นั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญที่แบ่งออกเป็นโซนทั้งหมดอยู่ประมาณ 5 โซนด้วยกัน ได้แก่ 

        แกนกลาง  อย่างที่เรารู้กันดีว่าดวงอาทิตย์นั้นเป็นวงกลมดังนั้นจึงมีแกนกลางอยู่ด้านในซึ่งแกนกลางนี้เองที่เป็นพลังงานนิวเคลียร์ที่ถูกผลิตขึ้นโดยถูกสร้างมาจากอะตอมไฮโดรเจนเกิดการชนกันด้วยความเร็วสูงหลังจากนั้นจึงปรากฏเป็นนิวเคลียสของฮีเลียมซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน  

        จุดมืดของดวงอาทิตย์ จุดมืดของดวงอาทิตย์นี้เราไม่ได้พบเห็นอยู่บ่อยสักเท่าไหร่นะจะเห็นเพียงแค่บางครั้งเท่านั้นโดยมักจะเห็นบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ซึ่งหากมองดีๆจะเห็นปรากฏการณ์จุดดำเป็นกลุ่มที่นักวิทยาศาสตร์ใดเรียกกันว่าจุดมืดซึ่งบริเวณนั้นจะดูมืดเนื่องจากว่าอุณหภูมิลดลงกว่าจุดอื่นๆโดยมีการคาดการณ์กันว่าอุณหภูมิบริเวณที่เป็นจุดมืดนั้นจะอยู่เพียงแค่ประมาณ 2000 องศาเซลเซียสเท่านั้น    alpha88   อย่างไรก็ตามเรามักจะพบเห็นจุดมืดนานๆครั้งและจะอยู่เพียงแค่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ก็จะหายไป 

     โซนการพาความร้อน สำหรับจุดนี้จะอยู่ตรงบริเวณข้างใต้ของพื้นผิวของดวงอาทิตย์ซึ่งจะเป็นลักษณะของการไหลเวียนของพลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ตรงบริเวณแกนกลางของดวงอาทิตย์และจะมีการนำความร้อนขึ้นไปยังพื้นผิวเป็นลักษณะของการถ่ายเทความร้อน

    โซนการแผ่รังสี สำหรับ Sony นั้นจะอยู่ต่อมาจากโซนของการพาความร้อนโดยโซนนี้จะเป็นบริเวณที่ส่งผ่านพลังงานจากแกนกลางขึ้นไปด้านบนสุดซึ่งส่วนนี้จะมีทั้งความหนาแน่นและมีแถบรังสีความร้อนปรากฏขึ้น 

    หนามสุริยะบริเวณนี้เรามักจะเห็นอยู่ที่ดวงอาทิตย์ซึ่งมันจะเกิดเป็นการ์ดขึ้นมาเพื่อเป็นการปกคลุมทั่วพื้นผิวมีลักษณะเป็นยอดแหลมขนาดเล็ก  ถอดออกมาจากน้ำสุริยะนั้นเราก็จะสามารถมองเห็นกลุ่มก๊าซร้อนซึ่งจะมีลักษณะโปร่งแสงและขรุขระโดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่มาตรงบริเวณพื้นผิวด้านนอกของดวงอาทิตย์โดยส่วนนี้จะ

วัฒนธรรมมีส่วนช่วยในการพัฒนาสิ่งต่างๆ

วัฒนธรรมยังเป็นสิ่งที่ขายได้เสมอหากเรารู้วิธีการให้คุณค่าแก่มัน ด้วยการสนับสนุนพลังที่นุ่มนวลนี้ เราสามารถพัฒนาและขยายศักยภาพต่อไปให้เป็นมากกว่ากระแสรายได้และบางสิ่งที่จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์หรือองค์ประกอบทางวัฒนธรรมใดองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น

วัฒนธรรมมีส่วนช่วยในการพัฒนา เราจำเป็นต้องพิจารณาภาพใหญ่และไม่อนุญาตให้จำกัดกำลัง แต่จะต้องขับเคลื่อนอย่างมั่นคงแต่นุ่มนวล และไม่อนุญาตให้เป็นปรปักษ์กับเป้าหมาย

แท้จริงแล้วความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่เอกลักษณ์ประจำชาติ ทุกชาติล้วนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นนามธรรมเกินกว่าจะท้าทายได้ การจะแข่งขันได้นั้นต้องมีความคิดสร้างสรรค์และรู้จักเข้าหาเพื่อปรับมุมมองให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ

ส่งผลให้คง soft power ไว้ได้ยาวนานเหมือนที่อเมริกาทำสำเร็จ อุตสาหกรรมไมซ์ไทยกับบทบาทขับเคลื่อน Soft Power ไปทั่วโลกประสิทธิภาพและอิทธิพลของ Soft Power เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน และในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2565

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญโดยออกนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยที่แทรกซึมเข้าสู่ตลาดโลกและแนะนำให้ ที่หน่วยงานภาครัฐทำงานใกล้ชิดกับผู้ผลิตภาคเอกชน ศิลปิน และบุคลากรเบื้องหลังมากขึ้น

เพื่อผลักดันการใช้ Soft Power ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ ตามนโยบายดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทรัพยากรทางวัฒนธรรมของประเทศไทยตาม “5 เอฟ” ได้แก่ อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น การต่อสู้ (ศิลปะป้องกันตัวแบบไทย) และเทศกาลประเพณีไทย

ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ใน Global Soft Power Index 2022 ซึ่งสะท้อนถึงก้าวแรกในการผลักดัน Soft Power ของประเทศ

โดยมีคะแนนอยู่ที่ 40.2 คะแนน เพิ่มขึ้น 1.5 คะแนนจากปีที่แล้ว และประเทศอยู่ในอันดับที่ 35 ของตารางจาก 120 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของอาเซียนและอันดับที่ 6 ในเอเชีย การจัดอันดับวัดจากดัชนีด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ รัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประสิทธิภาพในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการแทรกซึมของสินค้า บริการ ค่านิยมและ

แนวคิดของประเทศอื่นๆ สู่ชีวิตประจำวัน Soft power กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ฟื้นตัว นโยบายของไทยมุ่งสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่พัฒนาจากความรู้ ทรัพย์สินทางปัญญา ความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและสังคมและเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการต่อไป

ทีเส็บจึงมีบทบาทสนับสนุนนโยบายนี้โดยจัดให้มีการประชุม สัมมนา และงานแสดงสินค้าทั้งไทยและเทศ

เพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้การขยายตัวของ Soft Power มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างล่าสุดคืองาน Dubai Expo ที่ TCEB ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์สร้างสรรค์ด้วยการจัดแสดงรถตุ๊กตุ๊กไทยที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องจำลองเสมือนจริงซึ่งทักทายผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มแบบไทยอันโด่งดัง ทีเส็บยังมีอีกหลายโครงการที่เข้าร่วม เช่น APEC 2022, ICCA Congress 2023, International Horticultural Expo 2026 ที่อุดรธานี และ Expo 2028

Phuket โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางวัฒนธรรมไทยในรูปแบบสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การผลักดันเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง การประชุมและนิทรรศการที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้เน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทย

ในการเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ทิศทางในอนาคตสำหรับบทบาทของ soft power จะเป็นอย่างไร? คุณสามารถขยายศักยภาพของคุณได้ไกลแค่ไหน? ทีเส็บจะปรับปรุงและพัฒนาความเคลื่อนไหวต่อไปเพื่อให้คนไทยทุกคนภาคภูมิใจ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย        มั่งมีหวย

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับวัฒนธรรม

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับวัฒนธรรม เรื่องในแง่มุมต่างๆ ของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับวัฒนธรรมรวมอยู่ในฉบับนี้

เอกสารสามฉบับแรกใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์หรือลำดับวงศ์ตระกูล บัญชีการเมืองวัฒนธรรมของ Hong ในช่วงต้นยุคโชซอนพยายามที่จะเติมเต็มช่องว่างทางปรัชญาและทฤษฎีในประวัติศาสตร์ของนโยบายวัฒนธรรมเกาหลี การวิเคราะห์แง่มุมทางศาสนาและวัฒนธรรมของการเมืองและดนตรีของลัทธิขงจื๊อเป็นมาตรการเพื่อเติมเต็มอุดมคติของรัฐ เป็นการพาดพิงถึงธรรมชาติที่คงอยู่ของต้นกำเนิดนโยบายวัฒนธรรมที่มีรัฐเป็นศูนย์กลางในเกาหลี

ความคิดของขงจื๊อซึ่งถูกมองว่าจำกัดอยู่แต่ในปรัชญาการเมือง โดยพื้นฐานแล้วดำเนินตามอุดมคติทางศาสนาที่สถาบันวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญ การปกครองวงการดนตรีผ่านระบบราชการเป็นงานที่สำคัญยิ่งสำหรับรัฐ ทั้งในระดับสัญลักษณ์และภาคปฏิบัติ

การวิเคราะห์เปรียบเทียบพัฒนาการของนโยบายดนตรีทั้งในเกาหลีเหนือและใต้ของโนห์แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มที่รัฐเป็นศูนย์กลางในสมัยโบราณยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างไรในช่วงของการปรับปรุงให้ทันสมัย ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงในการวิเคราะห์นี้นำเสนอหน้าต่างที่น่าสนใจ

ซึ่งสามารถมองเห็นปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของอุดมการณ์ทางการเมือง ชาตินิยม และลัทธิหลังอาณานิคมได้ บทความแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีความคลาดเคลื่อนมากมาย แต่ทั้งสองระบอบก็ดำเนินตามแนวทางเดียวกันคือการควบคุมโดยรัฐมากเกินไป

ในทางกลับกัน Yuk สำรวจอุตสาหกรรมภาพยนตร์ร่วมสมัยและนโยบายภาพยนตร์

จากการตรวจสอบการพัฒนาสถาบันในด้านภาพยนตร์ เธอสังเกตว่านโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบที่เป็นอิสระและยั่งยืนนั้นล้มเหลว ดังที่เห็นได้จากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์เมื่อเร็วๆ นี้ เธอให้เหตุผลว่าผลลัพธ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับการทำงาน (หรือไม่ทำงาน)

ของระบบการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและตัวแทนที่เกี่ยวข้องมากกว่าบทบัญญัติเฉพาะของสถาบัน คำวิจารณ์ของเธอทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายวัฒนธรรมของเกาหลีกับระบบประชาธิปไตยที่มีรัฐเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีลักษณะเด่นคือการรวมศูนย์อำนาจมากเกินไป

หนึ่งในข้อโต้แย้งที่เกิดซ้ำๆ เกี่ยวกับนโยบายวัฒนธรรมของเกาหลีเกี่ยวข้องกับระดับความรุนแรงที่รัฐเข้าแทรกแซงในการกำหนดนโยบายวัฒนธรรม Lee นิยามนโยบายวัฒนธรรมของเกาหลีว่าเป็นผลผลิตของ รัฐอุปถัมภ์ใหม่ในขณะที่ Chung ตอบโต้มุมมองนี้

โดยอ้างว่าควรถูกมองว่าเป็นผลผลิตของ รัฐพัฒนาใหม่แม้ว่าผู้เขียนทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐมีอำนาจเหนือในด้านวัฒนธรรม แต่พวกเขาก็ลงเอยด้วยกรอบการวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน ในบทความทั้งสอง ยอมรับว่าประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการตลาดเป็นองค์ประกอบหลักในการพัฒนานโยบายวัฒนธรรมในเกาหลี Lee ให้เหตุผลว่าองค์ประกอบทั้งสองนี้ทำงานใน การเคลื่อนไหวคู่ขนาน

เพื่อขับเคลื่อนรัฐผู้อุปถัมภ์ สังเกตว่ารัฐเป็นผู้มีอำนาจหลักในการตีความความหมายของประชาธิปไตยในนโยบายวัฒนธรรม และมีบทบาทสำคัญในการปรับสภาพเศรษฐกิจตลาดของวัฒนธรรม เธออ้างว่า  alpha88     ไม่เพียงพอที่จะติดป้ายสถานะว่า กำลังพัฒนา

เธอให้เหตุผลว่าการใช้ลัทธิพัฒนาการตามมูลค่าจะประเมินการมาถึงของประชาธิปไตยและผลกระทบของมันต่ำเกินไป รูปแบบรัฐอุปถัมภ์ใหม่บ่งบอกเป็นนัยว่านโยบายวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นเหมือนโครงการรัฐมากกว่า โดยมีความคล้ายคลึงกับรูปแบบรัฐอุปถัมภ์ในรูปแบบสถาบันและรูปแบบการปฏิบัติ

แต่ก็แตกต่างกันตรงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเงินทุนเนื่องจากการเมืองของพรรค อีกนัยหนึ่ง ชุงอ้างว่านโยบายวัฒนธรรมของเกาหลีอยู่บนพื้นฐานของสถิตินิยมโดยเน้นที่ระบบราชการเป็นแรงผลักดัน

สำหรับเขา ในขณะที่การเป็นประชาธิปไตยเป็นหลักการสำคัญ กระบวนการทั้งหมดของการกำหนดนโยบายอุตสาหกรรมวัฒนธรรมในเกาหลีเป็นไปตามแบบแผนของนโยบายอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างของนโยบายสถิติ

สงครามเย็นกระดานหมากรุกมหาอำนาจ

ซึ่งหนึ่งในแกนกลางของสงครามเย็นในครั้งนี้ก็คือพื้นที่ของประเทศเยอรมันในฐานะที่เยอรมันเองเป็นประเทศผู้พ่ายแพ้สงครามท้ายที่สุดก็กลายเป็นพื้นที่ที่มหาอำนาจสี่ฝ่ายซึ่งถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจผู้ชนะสงครามได้แก่สหรัฐอเมริกาอังกฤษและฝรั่งเศสในฝั่งหนึ่ง

ทางฝ่ายสังคมนิยมก็คือสหภาพโซเวียตนั้นเข้าไปเยอรมันส่วนหนึ่งคือการที่จะหั่นประเทศเยอรมันนั้นออกเป็นสี่ส่วนด้วยกันก็คือในปี1945 เรื่อยมาจนกระทั่งในปี 1947 ซึ่งในช่วงนั้นมีการแบ่งเยอรมันออกเป็นสี่ส่วนก่อนที่จะมีการแบ่งออกเป็นสองส่วนก็คือเสรีประชาธิปไตยอีกส่วนก็เป็นของสหภาพโซเวียตก็ใช้ลัทธิและรูปแบบการปกครองที่ไม่เหมือนกัน

นอกจากนี้เบอร์ลินเองหากใครดูแผนที่เยอรมันก็จะพบว่าเบอร์ลินนั้นทั้งเมืองเลยอยู่ในพื้นที่หนึ่งในเบอร์เบอร์ลินเองก็มีการแบ่งออกเป็นสองซีกก็คือเบอร์ลินตะวันตกและก็เบอร์ลินตะวันออกกันด้วยจนกระทั่งเรื่อยมาถึงปี 1989 เรื่องของสงครามเย็นจึงจบลง

เกาหลีเองก็เช่นเดียวกันอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วหลังจากที่ได้มีการปลดแอกจากญี่ปุ่นไปแล้วเกาหลีเองก็มีผู้ที่ฝักใฝ่สังคมนิยมอีกฝ่ายก็ฝักใฝ่ประชาธิปไตยแล้วแนวความคิดเห็นที่แตกแยกกันในประเทศใดประเทศหนึ่งก็จะมีมหาอำนาจซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าสำนักของลัทธิเหล่านี้เข้าไปให้การสนับสนุน

สงครามเย็นกระดานหมากรุกมหาอำนาจ ความขัดแย้งเหล่านี้โดยที่มมีมหาอำนาจเป็นผู้ที่ใช้ตัวแทนในการรบนอกพื้นที่ของตัวเองก็คือสงครามเย็นเวียดนามที่ในอนาคตตอนต่อไปที่จะเล่าก็เป็นลักษณะเช่นเดียวกันนั่นเองก็คือมีการที่จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนเวียดนามเหนือและ  กริลแอร์      เวียดนามใต้หลังจากที่มีสงครามเย็นลักษณะแบบนี้แล้ว

โลกเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างโลกก็จะเต็มไปด้วยสงครามในหลากหลายพื้นที่ด้วยกันหรือแม้ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาเองแล้วก็ดีสหรัฐอเมริกาเองรู้ดีว่าสหภาพโซเวียตนั้นมีอิทธิพลเหนือกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกด้วยกันก็เลยได้มีการตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือที่เรียกกันว่านาโต้

ทางด้านของสหภาพโซเวียตเองก็มีการระดมคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนโดยทั้งสองส่วนนี้ก็มีการแข่งขันในเรื่องของการทหารเพื่อย้ำให้มั่นใจว่าพลังทางความมั่นคงของแต่ละฝ่ายนั้นไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำฝ่ายใดทางจิตนาการดูว่าสงครรามเย็นนี้ทำให้กีฬาโอลิมปิก2ครั้งต้องปล่อยไปโดยสิ้นเชิง

โอลิมปิกในปี 1980 เจ้าภาพคือสหภาพโซเวียตครั้งนั้นสหรัฐอเมริกาปฏิเสธไม่ส่งนักกีฬาของตัวเองเข้าไปแข่งขัน 4 ปีถัดมาจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาที่ลอสแอนเจลิสในครั้งนั้นสหภาพโซเวียตเองก็ปฏิเสธและไม่ส่งนักกีฬาไปด้วยท่าทีจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กันง่ายๆ

ประวัติพระธาตุดอยตุง  จังหวัดเชียงราย 

       สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาหรือตำนานของวัดพระธาตุดอยตุงจังหวัดเชียงรายกันเนื่องจากว่าที่นี่นั้นเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังประจำจังหวัดเชียงรายซึ่งตามประวัติความเป็นมาแล้วได้มีการพูดถึงการสร้างวัดพระธาตุดอยตุงว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยของกษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ โดยในสมัยนั้นก็คือพระเจ้าอชุตราช นั่นเอง 

ประวัติพระธาตุดอยตุง       หลังจากที่มีการสร้างวัดพระธาตุดอยตุงสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พระมหากัสสปะก็ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุแห่งนี้โดยส่วนที่ถูกอัญเชิญมานั้นคือส่วนของพระราชเบื้องซ้ายหรือก็คือบริเวณกระดูกไหปลาร้าของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง

           อย่างไรก็ตามหลังจากที่พระมหากัสสปะได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาที่จังหวัดเชียงรายแล้วก็ได้มีการมอบให้กับพระเจ้าอชุตราชซึ่งพระองค์นั้นก็ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาไว้ภายในพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอยู่บนดอยโดยมีการสร้างเจดีย์คลุมเอาไว้ซึ่งโดยดังกล่าวนั้นก็คือดอยตุงแห่งนี้นั่นเอง 

        ประวัติความเป็นมาได้มีการระบุว่าลักษณะของการก่อสร้างวังพระธาตุดอยตุงนั้นได้มีการคำนวณเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีการระบุว่าผู้ที่คำนวณหรือพยากรณ์วัดพระธาตุแห่งนี้เอาไว้นานก็คือพระพุทธเจ้านั่นเอง

ซึ่งได้มีการระบุเอาไว้ว่าหากว่าธง ที่ปักบนยอดเขาหรือบนดอยแห่งนี้ปลิวไปทางไหนให้ยึดจากปลายของธงใช้สำหรับกำหนดเป็นฐานของพระเจดีย์โดยธงที่ถูกปักไว้บนยอดเขาหรือบนดอยตุงแห่งนี้นั้นมีความยาวถึง 1พันวาเลยทีเดียว

           อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการสร้างวัดพระธาตุดอยตุงนั้นบริเวณบนดอยแห่งนี้นั้นมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างเช่นพวกเราจบและพวกมิลักขะอุดังนั้นพระเจ้าอชุตราช จึงได้มีการมอบทองคำเพื่อให้เป็นค่าที่ดินแก่ผู้คนที่อาศัยอยู่บนดอยแห่งนี้เพื่อที่จะได้นำที่ดินบนดอยแห่งนี้มาใช้เป็นสถานที่ในการสร้างพระธาตุดอยตรงและสร้างเป็นพระเจดีย์สำหรับเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าพระธาตุดอยตุงแห่งนี้จะเป็นที่จัดเก็บพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้ายแล้วแต่พอถึงในยุคสมัยของพระเจ้ามังรายมหาราชก็ได้มีการนำพระบรมสารีริกธาตุมาถวายอีก 50 องค์ ซึ่งคนที่นำมาถวายก็คือพระมหาวชิรโพทะเลละคนเดิมนั่นเอง  ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าบนพระธาตุดอยตุงแห่งนี้มีเจดีย์ 2 องค์ที่ถูกสร้างใกล้กันพระองค์แรกนั้นถูกสร้างในสมัยของพระเจ้าอชุตราช ส่วนอีกองค์หนึ่งนั้นถูกสร้างในสมัยของพระเจ้ามังรายณราชนั้นเอง 

 

สนับสนุนโดย.      alpha88

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 

      เมื่อพูดถึงวัดพระศรีรัตนศาสดารามเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนะไปหาพูดคำว่าวัดพระแก้วเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักวัดนี้เนื่องจากว่าวัดนี้นั้นเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของประเทศไทยวัดหนึ่งโดยวัดแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระคู่บ้านคู่เมืองคู่ประเทศไทยนั้นก็คือพระแก้วมรกตนั่นเอง

          โดยวัดแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและที่สำคัญพระแก้วมรกตซึ่งประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม  เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณอายุหลายร้อยปีแล้วและถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อครั้งรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระองค์นั้นเป็นบุคคลที่สั่งให้มีการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นมาโดยสร้างตั้งแต่ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาพร้อมกับพระบรมมหาราชวังนั่นเอง 

         สำหรับยุคในสมัยโบราณนั้นการสร้างวัดแต่ละแห่งนั้นจะต้องมีการกำหนดสถานที่เอาไว้อย่างชัดเจนโดยมีการดูเกี่ยวกับเรื่องของลักษณะของพื้นที่ที่จะใช้ในการสร้างวัดอย่างเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ก็ได้มีการสร้างเอาไว้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก

ซึ่งวัดนั้นจะถูกสร้างอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเขตพระราชฐาน    aesexy        โดยจะเห็นได้ว่าลักษณะของการสร้างนั้นจะมีการสร้างระเบียงล้อมรอบเป็นการกั้นเขตกลางระหว่างวัดกับพระบรมมหาราชวังนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าวัดแห่งนี้นั้นเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา

และเป็นวัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อคู่กับพระบรมมหาราชวังดังนั้นจึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ถ้าหากใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามจะเห็นได้ว่าภายในวัดนั้นจะมีพระพุทธรูปเยอะแยะมากมายหมดหรือสิ่งก่อสร้างสวยงามมากมายเต็มไปหมดแต่จะไม่มีพระสงฆ์แม้แต่องค์เดียวจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้

       อย่างไรก็ตามสำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้เราจะเห็นได้ว่าเวลาที่พระมหากษัตริย์ต้องการที่จะมีการประกอบพิธีสำคัญก็จะมาทำพิธีที่วัดแห่งนี้อย่างเช่นการทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาหรือแม้แต่การใช้เป็นที่บวชนาคหลวงก็มาทำพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้นั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักจะเดินทางมาที่กรุงเทพฯเพื่อชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างซึ่งอยู่ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งก่อนที่จะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามภายในวัดดังกล่าวนั้นจะต้องมีการแต่งกายสุภาพถึงจะสามารถเข้าไปชมด้านในได้แล้วก็จะต้องมีการเข้าไปตามช่วงเวลาที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการกำหนดเอาไว้

ประวัติศาสตร์ของสงคราม9ทัพ

สงคราม 9 ทัพ เกิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2328 หลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มาเพียงแค่ 3 ปี เท่านั้นในระยะเวลาดังกล่าวหากมองกันที่เวลาแล้วกรุงรัตนโกสินทร์อาจจะยังไม่พร้อมมากนักทั้งนี้เพิ่งจะก่อรากสร้างเมืองมาได้ไม่นาน แต่หากมองกันในแง่ของภาพรวม

ซึ่งแท้จริงกรุงรัตนโกสินทร์เป็นเพียงการย้ายเมืองจากแม่น้ำปากซ้ายมายังฝั่งขวาเท่านั้นส่วนเรื่องของคนและความพร้อมน่าจะมีอยู่บ้างแล้วนับแต่สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีอีกทั้งในการเปลี่ยนแผ่นดินที่ผ่านมาก็เป็นแค่เพียงเปลี่ยนขั้วอำนาจระบบแกนนำเท่านั้น

ประวัติศาสตร์ของสงคราม9ทัพ   ขนาดที่ระดับขุนนางและกองพลไพรรบมีผลกระทบกระเทือนเพียงน้อยนิดกล่าวคือมีการสังหารเฉพาะข้าราชการระดับสูงบางคนและเชื้อพระวงศ์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเพียงบางองค์เท่านั้นอีกทั้งนับแต่ที่ได้มีการย้ายกรุงกันมาทางด้านกรุงรัตนโกสินทร์ก็ระแวงว่าพม่าอาจจะยกทัพเข้ามาตีกรุงอยู่เสมอทำให้ตต้องมีการวางระบบป้องกันเอาไว้อย่างต่อเนื่องและที่สำคัญที่สุดในเรื่องของกำลังพลนั้น

ด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระอนุชาคือสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเคยเป็นแม่ทัพที่สำคัญในสมัยกรุงธนบุรีเมื่อเปลี่ยนแผ่นดินจึงมีบรรดาไพรพลที่เป็นคนเก่าคนแก่อยู่ในมือจำนวนมากพอสมควรโดยเฉพาะบรรดาข้าราลการที่รับใช้ใกล้ชิด

ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นบรรดาข้าหลวงเก่าที่รู้ใจและรู้ฝีมือกันเป็นอย่างมากจากการที่เคยร่วมออกสงครามด้วยกันในสมัยกรุงธนบุรีมาแล้ว

ในวันพฤหัสบดี เดือน ธันวาคม แรม 4 ค่ำ ปีมะเส็ง ปีพุทธศักราช 2328 พระเจ้าประดุกแห่งพม่าได้สั่งเคลื่อนพลออกจากเมาะตะมะที่ได้ยกทัพมาเป็น 5 ทาง คือทางมฤทธิ์ กำลังพล 11,000คน ทางเส้นทวายกำลังพล 11,000คน ทางเส้นเชียงใหม่ กำลังพล 33,000 คน 

ทางเส้นระแหงกำลังพล 5,000 คน และ ทางด้าน เจดีย์ 3 องค์ ซึ่งพม่าเรียกว่าทางเส้นไทรโยคมีกำลังพล 87,900 คน แบ่งเป็นทัพช้าง 500 ทัพม้า 8,400 และ พลเดินเท้า 79,000 กำลังพพลทั้งสิ้นรวม 147,900 นาย พม่าได้จัดขบวนเป็น 9 ทัพ คือ ทัพที่ 1 ที่ลงมาเส้น มฤทธิ์ มีทั้งทัพบก ทัพเรือคือมีเรือกำปั่น 15 ลำ เมื่อแรกให้แมงยีแมงเป็นแม่ทัพล

แต่แมงยี่แมงไม่อาจจัดหาเสบียงเพียงพอแก่กองทัพเมื่อทัพหลวงยกมาจากเจ้าประดุงจึงประหาเสียแล้วจึงยกมหาสีหสุระให้เป็นแม่ทัพแทนและทัพที่ 2 ในเส้นทางทวายได้ถือกำลังพล11,000คนมาตั้งที่เมืองทวายเดินทัพเข้าด่านบ้องตี้เข้าตีราชบุรี เพชรบุรีไปบรรจบกับทัพที่1 ที่ชุมพร ทัพที่3ลงมาตามเส้นเชียงใหม่

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย      มั่งมีหวย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม        เมื่อพูดถึงวัดพระศรีรัตนศาสดารามเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนะไปหาพูดคำว่าวัดพระแก้วเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักวัดนี้เนื่องจากว่าวัดนี้นั้นเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของประเทศไทยวัดหนึ่งโดยวัดแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระคู่บ้านคู่เมืองคู่ประเทศไทยนั้นก็คือพระแก้วมรกตนั่นเอง

          โดยวัดแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและที่สำคัญพระแก้วมรกตซึ่งประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณอายุหลายร้อยปีแล้วและถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อครั้งรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระองค์นั้นเป็นบุคคลที่สั่งให้มีการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นมาโดยสร้างตั้งแต่ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาพร้อมกับพระบรมมหาราชวังนั่นเอง 

         สำหรับยุคในสมัยโบราณนั้นการสร้างวัดแต่ละแห่งนั้นจะต้องมีการกำหนดสถานที่เอาไว้อย่างชัดเจนโดยมีการดูเกี่ยวกับเรื่องของลักษณะของพื้นที่ที่จะใช้ในการสร้างวัดอย่างเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ก็ได้มีการสร้างเอาไว้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกซึ่งวัดนั้นจะถูกสร้างอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเขตพระราชฐานโดยจะเห็นได้ว่าลักษณะของการสร้างนั้นจะมีการสร้างระเบียงล้อมรอบเป็นการกั้นเขตกลางระหว่างวัดกับพระบรมมหาราชวังนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าวัดแห่งนี้นั้นเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนาและเป็นวัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อคู่กับพระบรมมหาราชวังดังนั้นจึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ถ้าหากใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามจะเห็นได้ว่าภายในวัดนั้นจะมีพระพุทธรูปเยอะแยะมากมายหมดหรือสิ่งก่อสร้างสวยงามมากมายเต็มไปหมดแต่จะไม่มีพระสงฆ์แม้แต่องค์เดียวจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้

       อย่างไรก็ตามสำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้เราจะเห็นได้ว่าเวลาที่พระมหากษัตริย์ต้องการที่จะมีการประกอบพิธีสำคัญก็จะมาทำพิธีที่วัดแห่งนี้อย่างเช่นการทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาหรือแม้แต่การใช้เป็นที่บวชนาคหลวงก็มาทำพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งนี้นั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักจะเดินทางมาที่กรุงเทพฯเพื่อชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างซึ่งอยู่ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งก่อนที่จะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามภายในวัดดังกล่าวนั้นจะต้องมีการแต่งกายสุภาพถึงจะสามารถเข้าไปชมด้านในได้แล้วก็จะต้องมีการเข้าไปตามช่วงเวลาที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการกำหนดเอาไว้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย        หวยดี

ชาวอเมริกันวางแผนที่จะเดิมพัน 1.8 พันล้านดอลลาร์ในฟุตบอลโลกครั้งแรก

ชาวอเมริกันวางแผนที่จะเดิมพัน  ด้วยการพนันกีฬาที่ถูกกฎหมายอย่างกว้างขวา FIFA World Cup ในปีนี้เป็นทัวร์นาเมนต์ชายรายการแรกเนื่องจากคำตัดสินของศาลฎีกาให้ยุติการห้ามการพนันกีฬาของรัฐบาลกลางในปี 2018 ทำให้มีรายชื่อรัฐจำนวนมากขึ้นที่ออกกฎหมายให้กิจกรรมนี้ถูกต้องตามกฎหมาย

ขณะนี้ชาวอเมริกันประมาณ 132 ล้านคนอาศัยอยู่ในรัฐที่การพนันกีฬาถูกกฎหมาย

เทียบกับเพียง 10 ล้านคนในช่วงฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดเมื่อสี่ปีที่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ชาวอเมริกันจำนวน 20.5 ล้านคนจึงวางแผนที่จะเดิมพันรวม 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในการแข่งขันฟุตบอลที่จะเริ่มขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ตามการประมาณการของ American Gaming Association (AGA)

เป็นเรื่องน่ายินดีที่นักเดิมพันให้ความสำคัญกับกฎหมายอย่างจริงจัง AGA รายงานการเดิมพันส่วนใหญ่ 78% กล่าวว่าการวางเดิมพันที่ถูกกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ AGA ยังสนับสนุนให้นักพนันคำนึงถึงความปลอดภัยทางการเงินเป็นอันดับแรกในขณะที่ฟุตบอลโลกเริ่มขึ้น ใครก็ตามที่เข้าร่วมการแข่งขันควรมีแผนเกมที่จะเดิมพันอย่างมีความรับผิดชอบ” Casey Clark รองประธานอาวุโสของ AGA กล่าวในการแถลงข่าว

“นั่นหมายถึงการตั้งงบประมาณ ทำให้มันสนุก เรียนรู้อัตราต่อรองและเล่นกับผู้ให้บริการที่ถูกกฎหมายและได้รับการควบคุม” การพนันที่ถูกกฎหมายหมายความว่าคุณอาจไม่พบปัญหากับกฎหมายสำหรับการพนันฟุตบอลโลกหรือการแข่งขันกีฬาอื่น ๆ แต่ก็หมายความว่าอาจง่ายกว่าสำหรับนักพนันที่จะแอบเข้าไปสู่นิสัยที่เป็นอันตราย

เพียงเพราะถูกกฎหมายไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย แม้ว่าการวางเดิมพันแบบกระชับมิตรหรือแบบจริงจังในกีฬาอาจเป็นวิธีที่สนุกในการมีส่วนร่วมในเกม แต่การพนันตามปกติอาจกลายเป็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ผู้วางเดิมพันจะรู้ตัวเสียด้วยซ้ำการพนัน เป็นสิ่งเสพติดที่ซ่อนเร้น มีสัญญาณภายนอกไม่มากนัก” Keith Whyte ผู้อำนวยการบริหารของ National Council on Problem Gambling กล่าวกับ CNBC Make It

ชาวอเมริกันมักรู้จักการใช้สารเสพติดเนื่องจากสารที่มีผลทางกายภาพและมองเห็นได้สามารถมีต่อร่างกายของใครบางคนได้ Whyte กล่าว แต่ “การพนันไม่มีสาระสำคัญ ดังนั้นผู้คนจึงเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของศีลธรรมหรือเป็นเรื่องของความตั้งใจที่อ่อนแอ”

เป็นการยากที่จะติดตามจำนวนคนอเมริกันที่จัดการกับปัญหาการพนันหรือการติดการพนันที่นิยามทางการแพทย์ เนื่องจากขาดการรายงาน ความอัปยศ และช่องว่างในการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหา แต่ไวท์กล่าวว่าปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้คนจำนวนมากมีปัญหาเพิ่มขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอาจรวมถึงการโกหกคนที่คุณรักเกี่ยวกับการพนันหรือมีปัญหาในการเลิกพนัน ซึ่ง NCPG สามารถติดตามได้จากแบบสำรวจ

ตัวชี้วัดเหล่านี้ “เพิ่มขึ้นประมาณ 30% ระหว่างปี 2018 ถึง 2021” Whyte กล่าว “เรายังเห็นการโทร ข้อความ และการแชทไปยังสายด่วนในประเทศของเราเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการโทรเพิ่มขึ้นประมาณ 45% ระหว่างปี 2564 ถึง 2565”

แม้ว่ารายงานเหล่านั้นจะไม่สัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มขึ้นของปัญหาการพนันหรือการเสพติด แต่พวกเขายังคงส่งสัญญาณว่าการเพิ่มขึ้นของสถานที่เล่นการพนันสามารถกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องได้ Whyte กล่าว

 

สนับสนุนโดย        ole777

พระพุทธรูป เลจุน เซจาร์ ประเทศเมียนมาร์

พระพุทธรูป เลจุน เซจาร์ สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมาร์  ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้นั้นตั้งอยู่ในเมืองโมนยวา  ซึ่งพระพุทธรูปที่เรากำลังพูดถึงนั้นถูกสร้างคู่กัน 2 องค์

โดยองค์นึงนั้นจะอยู่ในลักษณะของท่ายืนส่วนอีกองค์นึงนั้นจะอยู่ในลักษณะของท่านอน  ซึ่งพระพุทธรูปที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็คือพระพุทธรูป เลจุน เซจาร์   นั่นเอง 

         สำหรับพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์นี้ถูกจัดอันดับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงและความใหญ่ติดอันดับโลกโดยสำหรับพระพุทธรูปยืนถูกจัดอันดับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงอันดับ 2 ของโลกในขณะที่พระพุทธรูปที่เป็นในลักษณะของท่านรนั้นถูกจัดอันดับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก  

          สำหรับประวัติการก่อสร้างพระพุทธรูปเลจุน เซจาร์   นั้นว่ากันว่าต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 12 ปีเลยทีเดียวกว่าจะสร้างเสร็จโดยเริ่มการก่อสร้างในช่วงประมาณปีค.ศ 1996 หลังจากที่มีการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงมีการเปิดให้บรรดาประชาชนได้เข้าไปกราบไหว้ขอพรและไปเยี่ยมชมความสวยงามขององค์พระพุทธรูปเลจุน เซจาร์  

         สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามพระพุทธรูปเลจุน เซจาร์   อย่างเป็นทางการนั้นมีการเปิดให้เข้าเยี่ยมชมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.  2008  เนื่องจากพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์นั้นมีขนาดที่ใหญ่และสูงมากจึงได้รับความนิยมจากบรรดาผู้คนทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

        สำหรับพระพุทธรูปซึ่งถูกสร้างเอาไว้ในลักษณะขององค์ยืนนั้นวัดความสูงได้อยู่ที่ 115.8 เมตร ในขณะที่พระพุทธรูปที่สร้างในลักษณะขององค์นั้นวัดความสูงได้ 170 เมตร   นอกจากจะมีพระพุทธรูปที่มีความใหญ่โตแล้วเวรพื้นที่โดยรอบนั้นก็ยังร่มเย็นเหมาะแก่การมานั่งวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย

       สำหรับพระพุทธรูปองค์ยืนมีความสูงต่ำกว่าพระพุทธรูป Spring  Temple Buddha เท่านั้นซึ่งพระพุทธรูปองค์ที่สูงที่สุดนั้นถูกสร้างอยู่ที่มณฑลเหอหนานประเทศจีนโดยความสูงที่วัดได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 128 เมตร  นับว่าเป็นองค์พระพุทธรูปที่มีความสูงมากที่สุดในโลกของปัจจุบันนี้นั่นเอง 

       สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจจะมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการของพระพุทธรูปเลจุน เซจาร์   สามารถมาเยี่ยมชมได้ตั้งแต่ 08:00 น ถึง 08:00 น ของทุกวันโดยจะมีการคิดค่าเยี่ยมชม USD 3 ต่อคน 

        อย่างไรก็ตามสำหรับการเดินทางมาเยี่ยมชมพระพุทธรูป เลจุน เซจาร์  นั้น  จะต้องเหมารถแท็กซี่มาเนื่องจากว่าสถานที่ก่อตั้งพระพุทธรูปเลจุน เซจาร์  นี้อยู่ห่างจากเมืองมันดาเลย์ถึง 125 กิโลเมตรเลยทีเดียว  ซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงและเยี่ยมชมความงดงามของพระพุทธรูปเลจุน เซจาร์   ก็อาจจะต้องเสียเวลาเป็นวันเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.       แทงหวยจับยี่กี