สงครามเย็นกระดานหมากรุกมหาอำนาจ

ซึ่งหนึ่งในแกนกลางของสงครามเย็นในครั้งนี้ก็คือพื้นที่ของประเทศเยอรมันในฐานะที่เยอรมันเองเป็นประเทศผู้พ่ายแพ้สงครามท้ายที่สุดก็กลายเป็นพื้นที่ที่มหาอำนาจสี่ฝ่ายซึ่งถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจผู้ชนะสงครามได้แก่สหรัฐอเมริกาอังกฤษและฝรั่งเศสในฝั่งหนึ่ง

ทางฝ่ายสังคมนิยมก็คือสหภาพโซเวียตนั้นเข้าไปเยอรมันส่วนหนึ่งคือการที่จะหั่นประเทศเยอรมันนั้นออกเป็นสี่ส่วนด้วยกันก็คือในปี1945 เรื่อยมาจนกระทั่งในปี 1947 ซึ่งในช่วงนั้นมีการแบ่งเยอรมันออกเป็นสี่ส่วนก่อนที่จะมีการแบ่งออกเป็นสองส่วนก็คือเสรีประชาธิปไตยอีกส่วนก็เป็นของสหภาพโซเวียตก็ใช้ลัทธิและรูปแบบการปกครองที่ไม่เหมือนกัน

นอกจากนี้เบอร์ลินเองหากใครดูแผนที่เยอรมันก็จะพบว่าเบอร์ลินนั้นทั้งเมืองเลยอยู่ในพื้นที่หนึ่งในเบอร์เบอร์ลินเองก็มีการแบ่งออกเป็นสองซีกก็คือเบอร์ลินตะวันตกและก็เบอร์ลินตะวันออกกันด้วยจนกระทั่งเรื่อยมาถึงปี 1989 เรื่องของสงครามเย็นจึงจบลง

เกาหลีเองก็เช่นเดียวกันอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วหลังจากที่ได้มีการปลดแอกจากญี่ปุ่นไปแล้วเกาหลีเองก็มีผู้ที่ฝักใฝ่สังคมนิยมอีกฝ่ายก็ฝักใฝ่ประชาธิปไตยแล้วแนวความคิดเห็นที่แตกแยกกันในประเทศใดประเทศหนึ่งก็จะมีมหาอำนาจซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าสำนักของลัทธิเหล่านี้เข้าไปให้การสนับสนุน

สงครามเย็นกระดานหมากรุกมหาอำนาจ ความขัดแย้งเหล่านี้โดยที่มมีมหาอำนาจเป็นผู้ที่ใช้ตัวแทนในการรบนอกพื้นที่ของตัวเองก็คือสงครามเย็นเวียดนามที่ในอนาคตตอนต่อไปที่จะเล่าก็เป็นลักษณะเช่นเดียวกันนั่นเองก็คือมีการที่จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนเวียดนามเหนือและ  กริลแอร์      เวียดนามใต้หลังจากที่มีสงครามเย็นลักษณะแบบนี้แล้ว

โลกเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างโลกก็จะเต็มไปด้วยสงครามในหลากหลายพื้นที่ด้วยกันหรือแม้ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาเองแล้วก็ดีสหรัฐอเมริกาเองรู้ดีว่าสหภาพโซเวียตนั้นมีอิทธิพลเหนือกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกด้วยกันก็เลยได้มีการตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือที่เรียกกันว่านาโต้

ทางด้านของสหภาพโซเวียตเองก็มีการระดมคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนโดยทั้งสองส่วนนี้ก็มีการแข่งขันในเรื่องของการทหารเพื่อย้ำให้มั่นใจว่าพลังทางความมั่นคงของแต่ละฝ่ายนั้นไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำฝ่ายใดทางจิตนาการดูว่าสงครรามเย็นนี้ทำให้กีฬาโอลิมปิก2ครั้งต้องปล่อยไปโดยสิ้นเชิง

โอลิมปิกในปี 1980 เจ้าภาพคือสหภาพโซเวียตครั้งนั้นสหรัฐอเมริกาปฏิเสธไม่ส่งนักกีฬาของตัวเองเข้าไปแข่งขัน 4 ปีถัดมาจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาที่ลอสแอนเจลิสในครั้งนั้นสหภาพโซเวียตเองก็ปฏิเสธและไม่ส่งนักกีฬาไปด้วยท่าทีจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กันง่ายๆ