ตำนานความเชื่อของพญานาค

สำหรับในความเชื่อหลักๆของบ้านเราก็จะนำเอาไปเลี้ยงกับพระพุทธศาสนาบอกว่าพญานาคมีอิทธิฤทธิ์อยากจะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ตำนานความเชื่อของพญานาค และก็บวชไม่ได้บ้างล่ะและด้วยเหตุนี้เองเราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกรูปปั้นพญานาคถึงได้เยอะแยะตามวัด

เนื่องจากนี้จะเชื่อกันหรือไม่ว่าจริงๆแล้วพญานาคตัวนั้นอาจจะเกิดมาก่อนพระพุทธศาสนาอีกโดยในความเชื่อของนาคไทยว่ากันว่าน่าจะรับมาจากทางอินเดียเอาจริงๆแล้วหากเราไม่ได้บอกก็มีหลายๆคนที่รรู้แล้วบ้างเพราะว่าคำว่านาคมันก็ได้มีจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่างูเห่าอินเดีย

ซึ่งมันก็จะสามารถที่จะพบเห็นได้อยู่เยอะในทางอินเดียตอนใต้ในแทบป่ารกและงูก็จัดเป็นสัตว์ที่มีพิษที่ร้ายแรงผู้คนในแทบนั้นเขาก็เลยกลัวกันคนโบราณเขาก็เลยมองเห็นอนุภาพของงูก็เลยเอามันมาเปรียบเทียบกับพระเจ้าเสียงเลย

ดังนั้นคนในแทบบนั้นก็นับถืองูเป็นเทพจ้าเรื่องนี้เราก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างหลากหลายที่ทั่วโลกเลยโดยในอารยธรรมเขามักจะมีรูปปั้นที่เป็นเทพเจ้าของงูอยู่แต่อาจจะเรียกกันแตกต่างกันในท้องที่คงจะแยกได้เปนพวกทางฝั่งตะวันตกกับงูฝั่งตะวันออก

เพราะฉะนั้นแล้วทางฝั่งตะวันตกเขาจะมองว่างูนั้นจะเป็นสัตว์ร้ายที่เป็นตัวแทนของอสูรกิเลสก็เอาไปเชื่อมกับเรื่องอะไรแบบนี้แต่ในทางกลับกันงูทางตะวันออกจะเปรียบเสมือนกับเทพเจ้าโดยมันจะมีความเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์วาสนาอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้คนมีความสุข

นอกจากนี้งูหรือนาคในฉบับที่เราเชื่อกันมันมักจะเชื่อมโยงกับด้านความสว่างความศักดิ์สิทธิ์ของคนฮินดูที่บอกวส่าพญานาคนั้นเป็นผู้ใกล็ชิดกับพระเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งแม่น้ำที่จะเป็นบัลลังก์ของพระเจ้าอะไรก็ว่ากันไปโดยศาสนาพุทธก็ได้นำเอาพญานาคมาทำเป็นบุตรคือที่อินเดียเขาจะมีการตบตีกันเรื่องศาสนาเลยระหว่างศาสนาพราหมณ์-ฮินดูพุทธและก็ลัทธิอื่นๆ

ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมีการหยิบยกเอาเทพเจ้าของตัวเองไปข่มเทพเจ้าอีกลัทธิหนึ่งหรือไม่ถ้าหากมีลัทธิไหนที่มีองค์เทพเจ้าที่เขาได้นับถือมากกว่าก็จะปรับตัวเองให้สูงขึ้นแล้วก็ทำให้แรงของอีกฝั่งหนึ่งให้ต่ำลงอย่างเช่นบางท้องที่ก็จะบอกว่าพระนารายณ์เป็นพระที่ใหญ่ที่สุดบางที่ก็บอกว่าเป็นพระศิวะอะไรก็ว่ากันไป

เนื่องจากนี้เขาก้ได้มีการนำเอาสัตว์ของลัทธิต่างๆมาเป็นบริเวณของแต่ละองค์เทพด้วยเพื่อเป็นการบอกว่าเทพเจ้าของข้าได้อยู่เหนือสิ่งที่ตัวเองนับถืออะไรก็ว่ากันไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    หวยดี