การทดลองใช้ขวดเป่าลูกโป่ง

          ลูกโป่งที่มีสีสันสวยงาม ใครๆก็ชอบนำมาประดับในสถานที่จัดงานต่างๆเพื่อให้สถานที่นั้นสวยงาม แต่คุณรู้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้ผลิตลูกโป่งคนแรกและลูกโป่งทำมาจากอะไร และมันลอยได้อย่างไร

           สำหรับคนที่ประดิษฐ์ลูกโป่งยางคนแรกของโลกคือ ไมเคิล ฟาราเดย์  โดยคิดค้นได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1824  โดยที่คิดค้นได้นั้นผลิตมาจากยางหรือน้ำยาง สามารถทำให้พองได้ด้วยการบรรจุแก๊สเข้าไป เช่น แก๊สฮีเลียม หรือ ไฮโดรเจน หรือออกซิเจน  ลูกโป่งมีหลากหลายสีสัน จึงเป็นที่นิยมกันมากทั้งเด็กและผู้หญิง โดยส่วนมากจะใช้ลูกโป่งให้งานต่างๆเพื่อประดับตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม 

          ข้อแตกแตกต่างของลูกโป่งที่บรรจุแก๊สฮีเลียมกับไฮโดรเจนนั้น ต่างกันตรงที่แก๊สฮีเลียมเป็นแก๊สเฉื่อย ดังนั้นมันจะไม่ติดไฟ นำมาใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอันตราย ยิ่งถ้าต้องนำไปประดับตกแต่งสถานที่ที่อยู่ใกล้ความร้อนหรอใกล้ไฟแล้วละก็ควรยิ่งต้องเลือกใช้ลูกโป่งที่บรรจุแก๊สฮีเลียม ส่วนลูกโป่งที่บรรจุแก๊สไฮโดรเจนนั้นจะเป็นแก๊สที่ไวต่อไฟ หากจะใช้งานต้องระมัดระวังการระเบิดด้วย เพราะหากลูกโป่งที่บรรจุแก๊สไฮโดรเจนโดนความร้อนแล้วเกิดติดไฟจะทำให้ระเบิดและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

         สำหรับวันนี้เราจะมาทำการทดลองการใช้ขวดเป่าลูกโป่งให้ลอยแทนการใช้ปากเป่าลมออกอย่างในสมัยโบราณ อย่ารอช้าเรามาเตรียมอุปกรณ์การทดลองกันเลยค่ะ เริ่มจาก ลูกโป่ง   ขวดเปล่าขนาด 1-1.5 ลิตร  ช้อนชา  กรวย  น้ำส้มสายชู  และเบกกิ้งโซดา  เห็นไหมคะอุปกรณ์หาได้จากในห้องครัวที่บ้านเราทั้งนั้นเลย เพื่อการเรียนรู้ของลูก เรามาทำการทดลองให้บุตรหลานเราดูกันค่ะ

          เริ่มการทดลองด้วยการเทน้ำส้มสายชูลงไปในขวดเปล่าประมาณ  1 ส่วน 3 ของขวดเปล่าที่เราเตรียมเอาไว้แล้วหลังจากนั้นให้เทเบกกิ้งโซดาเข้าไปในลูกโป่งสักประมาณ 2-3 ช้อนชา เนื่องจากปากลูกโป่งจะแคบมากเราสามารถใช้กรวยที่เตรียมไว้เป็นตัวช่วยในการขยายปากลูกโป่งเมื่อใส่เบกกิ้งโซดาเสร็จแล้ว

ให้นำลูกโป่งมาครอบไว้บนปากขวดน้ำส้มสายชูที่เราได้เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่นำลูกโป่งครอบปากขวดแล้ว คุณจะสังเกตเห็นว่าลูกโป่งจะค่อยๆพองตัวขึ้น เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้วก็หายางมารัดตรงปากลูกโป่งให้แน่น เท่านี้เราก็จะได้ลูกโป่งเอาไว้ประดับงานสวยๆได้แล้วค่ะ

สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมลูกโป่งถึงพองแล้วลอยได้หรือจะพูดว่าขวดสามารถเป่าลูกโป่งได้อย่างไรนั้น สามารถอธิบายเป็นแนววิทยาศาสตร์ได้ว่า น้ำส้มสายูในขวดและเบกกิ้งโซดาในลูกโป่งมีการทำปฏิกิริยาระหว่างกัน แล้วก่อให้เกิดก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์

  โดยหลักทางวิทยาศาสตร์กล่าวไว้ว่าก๊าชจะมีความเบากว่าอากาศและจะลอยตัวสูงขึ้น ดังนั้น เมื่อมีก๊าชเข้าไปในลูกโป่งเป็นจำนวนมากจึงทำให้ลูกโป่งลอยได้

 

สนับสนุนโดย  sagame เอเชีย